น้ำเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายมากกว่า 80% ของร่างกายคือน้ำ ฉนั้นแล้ว ร่างกายเราไม่ควรขาดน้ำในแต่ละอย่างเฉลี่ยคือดื่มวันละ 7-8 แก้วนั่นก็เพียงพอแล้ว สำหรับอาการที่ขาดน้ำคือ ปากมักจะแห้ง เหนื่อยง่ายต้องทานน้ำไม่อย่างนั้นเป็นผลเสียต่อร่างกายระยะยาวแน่ๆ
มาว่ากันถึงประโยชน์ของน้ำกันดีกว่า มีมากมายหลายอย่างเฉพาะทางกันไป
- ประโยชน์ต่อสมอง และระบบประสาท น้ำก็เปรียบเสมือนน้ำหล่อเลี้ยงเครื่องยนต์ หากน้ำขาดเครื่องก็ Heat ใช่ไหม ร่างกายเราก็เหมือนกัน หากขาดน้ำไปเกิดความร้อนขึ้น คิดอะไรไม่ออกต้องดื่มน้ำเติมพลังยังไงละ นอกจากนี้น้ำก็คือส่วนประกอบสำคัญของเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงร่างกาย สมอง และการดื่มน้ำเย็นๆ ก็ยังช่วยให้ผ่อนคลายหายร้อน ช่วยให้กระชุ่มกระชวย ทำให้คลายเครียด ลดอาการปวดศีรษะได้
- ประโยชน์อื่นๆ เป็นที่รู้กันดีว่าผิวพรรณจะดีเปล่งปลั่งสวย ไม่เหี่ยวย่นง่ายถ้าได้รับความชุ่มชื้นจากน้ำสม่ำเสมอ โดยการดื่มน้ำไม่ต่ำกว่า 8-10 แก้วทุกวันก็จะช่วยได้อย่างที่เกลิ่นไปตอนแรก เพราะว่าน้ำจะคอยดูแลเซลล์ให้ลอยอยู่บนน้ำได้ ผิวคุณจึงเรียบตึงไม่มีริ้วรอย หรือทรุดตัว หรือหากมีริ้วรอยก็จะหายได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นยังช่วยเรื่องไต การดื่มน้ำเป็นประจำจะช่วยไม่ปวดหลังหรือที่ปั้นเอวเพราะไตคุณจะแข็งแรง ทำงานได้ดี ซึ่งไตก็จะอยู่บริเวณบั้นเอวด้านหลังของร่างกาย ช่วยในการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย เพราะน้ำจะนำพาของเสียออกได้ง่ายดาย ทั้งทางอุจาระ ปัสสาวะ รูขุมขน เพราะไตเราทำงานได้ดียังไงละ ร่างกายเราจึงขับของเสียออกมาอย่างง่าย น้ำเป็นส่วนประกอบของอวัยวะต่างๆในร่างกาย และทุกระบบก็ต้องการน้ำไปใช้ทั้งสิ้น เช่น น้ำช่วยหล่อลื่นในระบบทางเดินอาหาร ช่วยเชื่อเซลล์ต่างๆ ช่วยหล่อลื่นข้อต่อต่างๆ ของร่างกาย ช่วยในการทำงานของระบบหายใจ น้ำเป็นตัวการสำคัญที่ช่วยในการเผาผลาญไขมัน ช่วยให้ไม่มีอาการท้องผูก เพราะน้ำจะช่วยในการขับถ่ายให้สะดวกขึ้น บำรุงดวงตาไม่ให้แห้ง สำหรับไครที่มีกลิ่นปากนั่นคือขาดการดื่มน้ำอย่างเพียงพอ หากต้องการหายจากกลิ่นปาก ให้ทานน้ำเยอะหายแน่นอน และการดื่มน้ำเป็นประจำจะช่วยลดโอกาสในการเป็นโรคความดันโลหิตสูง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรค ช่วยป้องกันการติดเชื้อโรคบางชิด ยังไม่หมดเท่านี้ แต่รู้เพียงเท่านี้ชีวิตของท่านดีขึ้นแน่ๆ
- อาหารที่อุดมไปด้วยน้ำ ควรหลีกเลี่ยงน้ำที่มีสารเจือปน หรือน้ำตาลมากเกินไป เช่นโค้ก เพราะมีกรด แถมยังทำให้อ้วน รวมถึงไตเราทำงานหนัก ควรบริโภคสารปรุงแต่งต่างๆผักที่มีน้ำมาก เช่น แตงกวา ฟักเขียว หัวไชเท้า ผลไม้ที่มีน้ำมาก เช่น แตงดม แก้วมังกร ส้มเขียวหวาน ส้มโอ
ที่มา blog. janthai .com